วันพฤหัสบดีที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559


คาราบาว  




งคาราบาวเกิดจากการก่อตั้งโดยนักเรียนไทยที่กำลังศึกษาอยู่ที่สถาบันเทคโนโลยีมาปัว กรุงมะนิลาประเทศฟิลิปปินส์ 3 คน คือแอ๊ด - ยืนยง โอภากุล , เขียว - กีรติ พรหมสาขา ณ สกลนคร และไข่ - สานิตย์ ลิ่มศิลา ขึ้นที่นั่น ในปี พ.ศ. 2523 โดยคำว่า คาราบาว เป็นภาษาตากาล็อก คือภาษาพื้นเมืองของฟิลิปปินส์ แปลว่า ควาย หรือคนใช้แรงงาน ซึ่งทางฟิลิปปินส์ถือเป็นสัญลักษณ์ของชนชั้นเกษตร โดยหมายจะเป็นวงดนตรีที่มีเนื้อหาเพื่อชีวิต
แอ๊ดได้มีโอกาสฟังเพลงของ เลด เซพเพลิน , จอห์น เดนเวอร์ , ดิ อีเกิ้ลส์ และ ปีเตอร์ แฟลมตัน จากแผ่นเสียงที่ไข่ได้สะสมไว้เป็นจำนวนมาก ต่อมาทั้ง 3 คนจึงร่วมกันตั้งวงดนตรีขึ้นมา โดยใช้ชื่อว่า คาราบาว เพื่อใช้ในการแสดงบนเวทีในงานของมหาวิทยาลัย โดยเล่นดนตรีแนวโฟล์คในเนื้อหาที่สะท้อนสภาพปัญหาและความเป็นจริงของสังคม
เมื่อกลับมาเมืองไทย แอ๊ดและเขียวได้ร่วมกันเล่นดนตรีในเวลากลางคืน โดยกลางวันแอ๊ดทำงานอยู่ที่การเคหะแห่งชาติ ขณะที่เขียวทำให้กับบริษัทฟิลิปปินส์ที่มาเปิดในประเทศไทย ส่วนไข่ก็ขอลาออกจากวงและแยกตัวออกไปทำงานรับเหมาก่อสร้างอยู่ที่ภาคใต้ ทั้งคู่ออกอัลบั้มชุดแรกของวง ในชื่อ ขี้เมา เมื่อปี พ.ศ. 2524 และแอ๊ดก็ได้ติดต่อวงโฮป ให้มาช่วยโปรดิวซ์ให้ในอัลบั้มชุดนี้ และทำให้คาราบาวเป็นที่รู้จักตั้งแต่อัลบั้มนี้
ต่อมาในปี พ.ศ. 2525 ได้มีสมาชิกในวงเพิ่มขึ้นมาอีก 1 คน คือ เล็ก - ปรีชา ชนะภัย จากวงเพรสซิเดนท์ และได้ออกอัลบั้มชุดที่ 2 ในชื่อชุด แป๊ะขายขวด โดยเล็กได้ชักชวนสมาชิกวงเพรสซิเดนท์บางส่วน รวมทั้ง อ๊อด - อนุพงษ์ ประถมปัทมะ มือเบสที่ตอนนั้นยังอยู่ในวงเพรสซิเดนท์ ให้มาเล่นเป็นแบ็คอัพของทั้ง 3 คน แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จอีกครั้ง






แอ๊ดคาราบาว แต่งผลงานเพลง พ่อภูมิพล เพื่อสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช





นายยืนยง โอภากุล หรือ แอ๊ดคาราบาว นักร้องเพื่อชีวิต  วัย 62  ปี  ได้แต่งผลงานเพลงเพื่อสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อเผยแพร่ให้พสกนิกรชาวไทยและชาวต่างชาติ ได้รับรู้ถึงพระราชกรณียกิจที่พระองค์มีต่อปวงชนชาวไทย พร้อมเปิดใจใช้ช่วงเวลาพักผ่อนงดแสดงคอนเสิร์ต เพื่อแสดงความอาลัยเป็นเวลา 30 วัน ว่า หลังทราบข่าวการเสด็จสวรรคต ถือเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของปวงชนชาวไทย ตนในฐานะพสกนิกรชาวไทยและมีอาชีพเป็นศิลปินนักร้องที่อยู่ใต้ร่มพระบารมี สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น จึงได้น้อมนำเอาพระราชดำรัสรวมถึงพระราชกรณียกิจของพระองค์สื่อออกมาเป็นบทเพลง โดยได้แต่งบทเพลงนี้ขึ้นเมื่อคืนวันที่ 16 ตุลาคม 2559 ให้ชื่อเพลงว่า “พ่อภูมิพล” หมายถึงเพลงที่เกี่ยวกับความสำคัญของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่มีต่อปวงชนชาวไทย ที่พระองค์ทรงงานหนักเพื่อลูกคือปวงชนชาวไทยมาตลอดการครองราชย์ 70  ปี ซึ่งเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่จะหาอะไรมาเทียบมิได้




และอยากให้คนไทยน้อมนำเอาพระราชดำรัสแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง รวมถึงหลักคำสอนของพระองค์ มาดำเนินชีวิต จึงได้แต่งเพลงนี้ขึ้นมาเป็นอนุสรณ์และยกให้เป็นสมบัติของแผ่นดิน ใครจะนำไปใช้ไปเผยแพร่ยินดีไม่มีลิขสิทธิ์




ส่วนความภาคภูมิใจสูงสุดเกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีที่มาตั้งแต่คุณพ่อ ที่มีอาชีพเป็นนักร้อง และเคยไปแสดงถวายในการเปิดโครงการพระราชดำริอ่างเก็บน้ำโพธิ์พญา จ.สุพรรณบุรี  เมื่อปี 2498  คุณพ่อได้รับพระราชทานเหรียญ 50 สตางค์  เป็นที่ระลึก  ซึ่งครอบครัวได้เก็บไว้จนถึงปัจจุบัน  ทำให้ตัวเองมีความชอบในอาชีพนักร้องจนมีการฝึกฝนพัฒนามาถึงปัจจุบัน และความภูมิใจสูงสุดในชีวิต ครั้งแรกเมื่อปี 2555 มีโอกาสร้องเพลงเพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติต่อหน้าพระพักตร์ ที่โรงพยาบาลศิริราช และส่วนครั้งที่ 2 ได้ร้องเพลง ปิดทองหลังพระ ที่แต่งถวาย และได้ร้องต่อหน้าพระพักตร์ในงานร่วมฉลองการครองราชย์ 65 ปี พระชนมายุครบ 7 รอบ 84 พรรษา ถือเป็นเกียรติประวัติความภาคภูมิใจสูงสุดในชีวิตไปตลอดกาล




ทั้งนี้อยากวิงวอนให้คนไทยได้หันมารู้รักสามัคคี น้อมนำเอาแนวพระราชดำรัสของพระองค์มาใช้ในการดำเนินชีวิต โดยเฉพาะแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งได้นำมาใช้ในชีวิตประจำวัน และนำมาสั่งสอนลูก รวมถึงเป็นหลักปฏิบัติในการดำเนินชีวิตในครอบครัว และนำมาเป็นแนวทางศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตเพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้กับลูกหลานเยาวชนต่อไป










เนื้อเพลง พ่อภูมิพล

เพลง พ่อภูมิพล
ศิลปิน แอ๊ด คาราบาว



คำร้อง/ทำนอง/เรียบเรียง ยืนยง โอภากุล




พ่อท่องไปใกล้ไกลทุกถิ่น

เหยียบพื้นดินทุกตารางนิ้ว
จากยอดดอยยอดภูสูงลิ่ว
ถึงชายเลนชายป่าโกงกาง
นำแนวทางที่คิดไว้ก่อน
เข้าไปสอนไปบอกไปสร้าง
แก้ปัญหาให้อย่างถูกทาง
นำความหวังสู่สังคมไทย




หนักเท่าใดไม่เคยคิดบ่น

ประชาชนต้องสุขสบาย
ยอมทุ่มเทพระวรกาย
แลกกับครองแผ่นดินโดยธรรม




วัน 13 ตุลาฟ้าดับ

พ่อนอนหลับลาจากเราไป
น้ำตาลูกท่วมท้นเมืองไทย
สุดอาลัย พ่อภูมิพล




พ่อเจ้าอยู่หัว พ่อภูมิพล

ของประชาชน คนไทยทั้งชาติ
เราขอตามรอยพ่อ
ตามเบื้องพระยุคลบาท
จอมกษัตริย์นักปราชญ์
ผู้หยาดเหงื่อหลั่งรดโลมดิน





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น